แอปเปิล ไซเดอร์เป็นน้ำหมัก ทำการหมักแอปเปิลกับยีสต์ ในระหว่างนี้จะเกิดกรดน้ำส้ม นี่คือสารชีวภาพจากการบ่มหรือหมักที่ทำให้ไซเดอร์มีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีประโยชน์มากมาย เช่นเดียวกับน้ำแอปเปิล น้ำแอปเปิลอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน เช่น เพคติน ไบโอติน กรดโฟลิก วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 โซเดียม แคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะบอกส่วนประกอบที่ถูกต้องของน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลที่มีจำหน่ายทั่วไป
เพราะจะแตกต่างกันไปตามกรรมวิธีการบ่มหรือส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามาของผู้ผลิตแต่ละราย แต่ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยน้ำ กรดอะซิติก 1-10.57 เปอร์เซ็นต์ กรดซิตริก 0-18.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น นอกจากจะใช้ประกอบอาหาร อบ ถนอมอาหารแล้วยังใช้ทำเป็นน้ำสลัดได้อีกด้วย หรือเพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร เพื่อสุขภาพ หลายคนยังชอบดื่มแอปเปิลไซเดอร์กับน้ำ เชื่อกันว่าการบริโภคไซเดอร์อาจช่วยป้องกันหรือรักษาภาวะต่างๆ เช่น โรคกระดูกพรุนและความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง การติดเชื้อ
และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควบคุมน้ำหนัก แก้ตะคริว ปวดขา รักษาอาการท้องเสีย ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย และอื่นๆ นอกจากนี้ บางคนอาจนำน้ำแอปเปิลมาทาผิวหรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น โทนเนอร์เช็ดหน้า รักษาสิว บรรเทาอาการงูสวัด แมลงสัตว์กัดต่อย ลดรังแค หรือรักษาการติดเชื้อในช่องคลอด อย่างไรก็ตามหลักฐานหรือหลักฐานทางการแพทย์ที่พอจะกล่าวถึงสรรพคุณ ประโยชน์ และความปลอดภัยของการใช้ไซเดอร์มีดังนี้ รักษาโรค
กรดในไซเดอร์กล่าวกันว่าช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด แสดงให้เห็นว่าการรับประทานกรดในน้ำส้มสายชูร่วมกับอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งจะเพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน และการลดระดับน้ำตาลในเลือด การวิจัยเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของ แอปเปิล ไซเดอร์ต่อน้ำตาลในเลือดหรือเบาหวานยังมีจำกัด งานวิจัยชิ้นหนึ่งตรวจสอบผลของกรดอะซิติกในน้ำส้มสายชูต่อระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารและการตอบสนองของอินซูลิน
อาสาสมัครสุขภาพดี 10 คน อายุระหว่าง 22-51 ปี ได้รับมอบหมายให้อดอาหารข้ามคืนและกินขนมปังขาวเป็นอาหารเช้า หรือเปลี่ยนขนมปังขาวเป็นอาหารอื่นที่มีสารอาหารและน้ำส้มสายชูเหมือนกัน ผลการวิจัยพบว่าอาสาสมัครมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงและความไวของอินซูลินดีขึ้น ดังนั้นจึงกล่าวกันว่าการรับประทานอาหารที่มีกรดอะซิติกหรืออาหารหมักดอง เช่น แอปเปิลไซเดอร์ อาจเพิ่มความไวของการตอบสนองของอินซูลินในร่างกาย และลดระดับน้ำตาลในเลือด การศึกษามีขนาดเล็กและไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโดยตรง
เป็นการยากที่จะพิสูจน์คุณภาพของแอปเปิลไซเดอร์ในการรักษาโรค นอกจากนี้ยังมีผลในการรักษาหรือป้องกันโรคเบาหวาน ควรใช้ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัย การควบคุมน้ำหนักและการสูญเสียไขมัน Acetate มีผลในการระงับความอยากอาหาร ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด การศึกษาขนาดเล็กยังพบว่าผู้ที่ดื่มไซเดอร์จะรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ดังนั้นการกินอาหารให้น้อยลงอาจช่วยได้
และส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก การทดลอง 9 สัปดาห์แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกรดอะซิติกในผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นที่เป็นโรคอ้วน 20 คน ผู้เข้าร่วมถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละกลุ่มได้รับเครื่องดื่มที่มีน้ำส้มสายชูเป็นส่วนประกอบ 20 มล. 40 มล. หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำส้มสายชูหมักแบบไม่ผ่านการหมัก ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มที่ได้รับเครื่องดื่มที่มีน้ำส้มสายชูหมักทั้ง 3 กลุ่มมีค่าดัชนีมวลกาย BMI ไขมันในช่องท้องและรอบเอวรวมถึงระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลงอย่างมาก
เมื่อเทียบกับเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ดื่ม จึงคิดว่าการบริโภคไซเดอร์เป็นประจำอาจช่วยป้องกันภาวะเมตาบอลิซึมได้ อย่างไรก็ตาม ควรทำการศึกษาเพิ่มเติมกับกลุ่มทดลองที่ใหญ่ขึ้นและระยะเวลาการทดลองที่นานขึ้น เพื่อช่วยแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของน้ำแอปเปิลอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม การป้องกันโรคอ้วนในระยะยาวที่ดีควรเน้นที่การรับประทานอาหาร โดยการลดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตรวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง บวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ประโยชน์อื่นๆ ไซเดอร์เป็นผลิตภัณฑ์อเนกประสงค์ นอกจากจะกินเพื่อรักษาหรือป้องกันโรคแล้ว บางคนยังใช้เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับการตกแต่งเวอร์ชันท้องถิ่น ผลการวิจัยในพื้นที่นี้มีจำกัด และข้อมูลทางคลินิกไม่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ดังนั้นควรใช้ด้วยความระมัดระวังและพิจารณาให้ดี อย่างไรก็ตามตัวอย่างการใช้น้ำแอปเปิลในชีวิตประจำวันมีดังนี้ แก้อาการเจ็บคอ การบ้วนปากน้ำหมักอาจช่วยกำจัดแบคทีเรียบางชนิดที่มักทำให้เกิดอาการเจ็บคอได้
อย่างไรก็ตามควรเจือจางด้วยน้ำตามปริมาณที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ก่อนใช้งาน เนื่องจากไซเดอร์มีความเป็นกรดสูงจึงสามารถทำลายปากและคอของคุณได้ เช็ดหน้าของคุณ เชื่อกันว่าแอปเปิลไซเดอร์มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพผิวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการบำรุงผิวขั้นต่อไปและลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ดังนั้นสูตรทั่วไปที่นิยมใช้เป็นโทนเนอร์คือผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล 1 ส่วน ต่อน้ำ 2 ส่วน แล้วใช้สำลีเช็ดหน้า แต่คนผิวแพ้ง่ายควรระมัดระวังในการใช้ และควรเจือจางลงในไซเดอร์ที่มีฤทธิ์อ่อนกว่า
แอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง ซึ่งอาจช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดได้ เป็นทางเลือกในการทำความสะอาดฟันแทนน้ำยาบ้วนปากทำความสะอาดอื่นๆ เป็นที่เชื่อกันว่าไซเดอร์อาจระคายเคืองต่อเยื่อบุในช่องปากน้อยกว่าสารเคมี แต่ประโยชน์นี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ คำแนะนำจากทันตแพทย์ก่อนใช้ ปลอดภัยต่อการเกิดรังแค ในทางทฤษฎี กรดในแอปเปิลไซเดอร์อาจช่วยหยุดการแพร่เชื้อแบคทีเรีย Malassezia ที่เป็นสาเหตุของรังแค เจือจางไซเดอร์ด้วยน้ำ จากนั้นชโลมลงบนหนังศีรษะแล้วล้างออก
รักษาสิวด้วยคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเป็นกรดของแอปเปิลไซเดอร์ แนะนำให้เจือจางกับน้ำแล้วทาบางๆ ที่สิว จะช่วยให้สิวยุบเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทาไซเดอร์ที่ไม่เจือปนกับผิวหนัง กรดที่มีความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวไหม้ได้กำจัดหูด แอปเปิลไซเดอร์เป็นสารที่เป็นกรดตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงใช้กำจัดหูดตามร่างกายหรือใบหน้า แต่วิธีนี้เจ็บมากและบางคนอาจต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ บรรเทาผิวไหม้แดด หลายคนใช้น้ำแอปเปิลเพื่อบรรเทาอาการไหม้แดด คุณสามารถใส่ขวดสเปรย์ฉีดลงบนผิวหนัง
เช็ดบริเวณผิวหนังที่ได้รับผลกระทบเบาๆ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือผสมกับน้ำอาบก็ได้แต่ควรเจือจางน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมก่อนใช้ ป้องกันกรดความเข้มข้นสูงไหม้แม้ว่างานวิจัยบางชิ้นจะชี้ให้เห็นถึงคุณประโยชน์ต่างๆ ของแอปเปิลไซเดอร์ แต่สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างรอบคอบก่อนบริโภคหรือนำไปใช้กับผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีข้อจำกัดทางร่างกายควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
นานาสาระ: เมล็ดแฟลกซ์ ศึกษาเมล็ดแฟลกซ์ธัญพืชเมล็ดเล็กที่มากคุณประโยชน์